เล่นกีฬาเทนนิสเพื่อสุขภาพ กีฬาเทนนิสกีฬาเทนนิส เป็นกีฬาที่สามารถเล่นในร่มหรือเล่นกลางแจ้งก็ได้ ซึ่งมีผู้เล่นสองคนในการแข่งขันประเภทเดี่ยว และสี่คนในการแข่งขันประเภทคู่ โดยใช้ไม้เทนนิสตีส่งลูกโต้กันไปมาเหนือตาข่ายให้อยู่ภายในบริเวณเส้นที่กำหนดเอาไว้ โดยทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถรับลูกได้ เมื่อลูกตกในบริเวณของฝ่ายใดก็เป็นอันว่าเสียคะแนนให้อีกฝ่ายนั่นเอง อุปกรณ์ที่ใช้เล่นกีฬาชนิดนี้ก็ไม่มีอะไรมาก มีเพียงไม้เทนนิส ลูกเทนนิส ชุดกีฬา(หมวกและรองเท้า)และครีมกันแดด(สำหรับคนที่กลัวดำนะจ๊ะ) ส่วนกติกาการนับคะแนนของกีฬาชนิดนี้ จะแบ่งออกเป็นเซต ซึ่งแต่ละเซตจะนับเป็นเกม เริ่มต้นด้วยคะแนน 0 – 0 จะนับคะแนนไปเรื่อยๆ เริ่มจาก 0-15 หรือ 15-0 โดยขานคะแนนของฝ่ายส่งลูกก่อน ตามด้วย 30 และ 40 ถ้าคะแนนเสมอกัน 40-40 เรียกว่า “ดิวซ์”หากใครทำคะแนนสองแต้มติดต่อกันจะเป็นผู้ชนะในเกมนั้น และใครได้ 6 เกมก่อนจะเป็นผู้ชนะในเซต หากเสมอกัน 6-6 เกม ต้องแข่งขันกันในไทเบรก (tie-break) นับแต้ม 1, 2, 3, … ใครได้ 7 แต้มก่อนเป็นฝ่ายชนะในเซตนั้นๆและนับจำนวนเซตในการตัดสินผู้ชนะ ฝ่ายที่ได้จำนวนเซตมากกว่าก็จะเป็นผู้ชนะตัวเลขเหล่านี้เองที่เหล่านัก<พนันบอลทั้งหลายชื่นชอบนัก แต่นี่คงต้องเปลี่ยนวิธีการเรียกจากนักพนันบอลเป็นนักพนันเทนนิสแทนล่ะมั้ง พื้นฐานการฝึกตีเทนนิส สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มหัดเล่นกีฬาเทนนิส ควรเริ่มจากการฝึกจับไม้ให้ถูกวิธีก่อน ซึ่งก็เหมือนกับการตีปิงปองนี่ล่ะ คือ มีการตีแบบโฟร์แฮนด์กับแบ็คแฮนด์ จะต้องฝึกหัดตีท่าพื้นฐานนี้ในอากาศไปเรื่อยๆ จนกว่าจะทำท่าได้อย่างถูกต้อง จากนั้นก็ฝึกตีลูก และฝึกเสิร์ฟลูกตามลำดับ เมื่อทุกอย่างทำได้คล่องแล้ว ก็พร้อมลงสนามแข่งกับเพื่อนได้เลย ไม้เทนนิส อุปกรณ์สำคัญของนักกีฬาเทนนิส ฉะนั้นจึงต้องคอยหมั่นดูแลรักษาไม้เทนนิสให้มีสภาพดีพร้อมใช้งานอยู่เสมอ วิธีการดูแลไม้เทนนิสก็ไม่ยากเลย ควรเช็ดไม้เทนนิสด้วยผ้าหมาดๆ อยู่เสมอ ระวังอย่าเช็ดบริเวณเส้นเอ็น เพราะจะทำให้ไม้จะเสื่อมสภาพเร็ว คอยดูแลเปลี่ยนผ้าจับไม้ไม่ให้ขึ้นรา ควรนำไปซักบ้างเมื่อเริ่มมีกลิ่นเหม็น ไม่ควรเอาไม้เทนนิสไปเคาะเน็ทบ่อยๆ เพราะจะทำให้ไม้เทนนิสเกิดรอยแตกร้าวและเสียหายได้ ไม่ควรให้ไม้เทนนิสและลูกเทนนิสโดนน้ำ เพราะจะทำให้เสียไวได้ สำหรับกีฬาประเภทใดก็ตาม จะต้องใช้รองเท้าที่เหมาะกับการเล่นกีฬาประเภทนั้นๆ กีฬาเทนนิสก็เช่นกัน จะต้องใส่รองเท้าเทนนิสโดยเฉพาะ เพราะรองเท้าเทนนิสจะมีพื้นสัมผัสที่เหนียวหนึบกับพื้น เวลาวิ่งรับลูกก็จะไม่ลื่น ในขณะที่กำลังเล่นกีฬาเทนนิสควรมีสติและสมาธิอยู่เสมอ เพราะหากเหม่อลอยอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ กีฬาปิงปอง เทเบิลเทนนิส เป็นกีฬาที่เล่นโดยใช้อุปกรณ์การเล่นเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น จะมีเพียงแค่โต๊ะปิงปอง ตาข่ายกั้นระหว่างสองฝั่งของโต๊ะ ไม้ตีปิงปอง และอุปกรณ์ที่สำคัญ ถ้าขาดอุปกรณ์นี้คงเล่นกีฬาชนิดนี้ไม่ได้แน่ๆ นั่นก็คือลูกปิงปองนั่นเอง ในการเล่นกีฬาปิงปอง ผู้เล่นจะต้องยืนคนละฝั่งของโต๊ะปิงปองแล้วตีลูกปิงปองโต้กันไปมาโดยมีกติกาการเล่น คือ ลูกปิงปองจะต้องตกกระทบลงบนพื้นโต๊ะฝั่งตนเองได้เพียงหนึ่งครั้งแล้วจึงตีโต้กลับไป แล้วหากฝ่ายตรงข้ามรับลูกปิงปองที่เด้งตกกระทบพื้นโต๊ะฝั่งของตนเองไม่ได้ก็จะเป็นฝ่ายแพ้ ผู้แพ้จะต้องเสียคะแนนให้ฝั่งตรงข้ามไปในสุด กีฬาปิงปอง เป็นกีฬาที่คนในแถบเอเชียตะวันออกนิยมเล่นกันมากกว่าคนในแถบอื่นๆ ทั้งประเทศจีน ฮ่องกง ไต้หวัน มาเก๊า ญี่ปุ่น เกาหลี และประเทศไทยก็นิยมเล่นกีฬาชนิดนี้กันโดยมาก ความนิยมของกีฬาปิงปองจึงทำให้ถูกบรรจุเข้าไปในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกอีกด้วย ซึ่งมีผู้เล่นสองคนที่เล่นตีโต้กันไปมา หรืออาจจะมีผู้เล่นได้สูงสุดถึงสี่คน คือฝั่งละสองคน เล่นกันเป็นทีม ลักษณะและวิธีการเล่นมีความคล้ายคลึงกับกีฬาเทนนิส แต่อาจจะมีกฎกติกาที่แตกต่างกัน ผู้เล่นอาจมีเทคนิคการเล่นที่แตกต่างกันตามความถนัดของแต่ละบุคคล บางคนอาจมีเทคนิคการตีลูกปิงปองแบบที่ให้ลูกปิงปองหมุน เรียกกันว่า ลูกสปิน บางคนอาจใช้เทคนิคการใช้ลูกหยอด หรือใช้ลูกเร็ว ซึ่งเทคนิคเหล่านี้จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามรับลูกได้ยากยิ่งขึ้น ดังนั้นกีฬาชนิดนี้จึงเป็นกีฬาที่ไม่ต้องใช้พื้นที่และอุปกรณ์มาก ใช้พื้นที่เพียงบริเวณโต๊ะและรอบๆ โต๊ะเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แข่งกันด้วยเทคนิคการตีลูกปิงปอง ต้องใช้ไหวพริบปฏิภาณ และใช้ความว่องไวในการรับลูกปิงปอง ประวัติที่มาของกีฬาปิงปอง ยังไม่มีหลักฐานปรากฏที่แน่ชัด บ้างก็อ้างว่ารัสเซียเป็นผู้คิดค้นกีฬาชนิดนี้ขึ้นมา บ้างก็อ้างว่าอังกฤษเป็นผู้คิดค้นแต่ได้มีผู้สันนิษฐานถึงที่มาว่ากำเนิดมาจากกีฬา 2 ชนิดคือ 1. กีฬาในร่มของเทนนิส ซึ่งเริ่มเล่นครั้งแรกในรัฐแมสซาชูเซตส์ ราวศตวรรษที่ 19 ( พ.ศ. 2433) 2. สันนิษฐานว่าในสมัย พ.ศ. 2393 ทหารอังกฤษได้คิดค้นวิธีการละเล่นชนิดหนึ่งขึ้นมา โดยจะใช้ลูกบอลที่ทำมาจากไม้ก๊อกหรือยางแข็ง แล้วนำเอาไม้กระดานมาแบ่งกั้นแทนตาข่ายกั้นระหว่างสองฝั่ง เพื่อตีลูกบอลโต้กันไปมา แล้วดูผลบอลผลบอล บางท่านได้สันนิษฐานว่า กีฬาปิงปองอาจมีที่มาจากกีฬาเทนนิส โดยพัฒนามาเรื่อยจนกลายเป็นกีฬาปิงปองในปัจจุบัน จึงทำให้ได้ชื่อของกีฬาชนิดนี้ว่า กีฬาเทเบิลเทนนิส นั่นเองวิธีการเล่นกีฬาปิงปองกีฬาปิงปองเป็นกีฬาที่มีความยากในการเล่น เพราะด้วยพื้นที่จำกัดเพียงแค่โต๊ะปิงปองสี่เหลี่ยมพื้นผ้าเท่านั้น ลูกปิงปองยังมีน้ำหนักเบาและเด้งไปมาด้วยความรวดเร็ว ผู้เล่นจะต้องใช้ความว่องไวเพื่อรับลูกปิงปองให้ทันท่วงที เทคนิควิธีที่ต้องใช้ในการเล่นกีฬาชนิดนี้ อาจต้องใช้ทุกๆ ส่วนของร่างกายร่วมกันทั้งหมด ซึ่งส่วนต่างๆ ที่ต้องใช้ มีดังนี้สายตา ในขณะที่เล่นกีฬาปิงปอง จะต้องใช้สายตาเพื่อจับจ้องมองลูกอยู่ตลอดเวลา และคอยสังเกตหน้าไม้ของคู่ต่อสู้อีกด้วยว่า เขาจะตีลูกให้หมุนในลักษณะใดมาหาเราเพื่อตั้งรับได้ทันท่วงที และใช้สายตาคอยดูผลบอลด้วยสมองปิงปองเป็นกีฬาที่ต้องใช้สมองในการคิดวิเคราะห์อยู่ตลอดเวลา รวมถึงต้องใช้สมองเพื่อวางแผนการเล่นอีกด้วย ng>มือที่ใช้จับไม้ปิงปอง จะต้องคล่องแคล่วและว่องไว และสามารถรู้สึกได้เมื่อลูกปิงปองสัมผัสถูกหน้าไม้ ในการตีให้ลูกปิงปองหมุนมากขึ้นจะมีเทคนิควิธีทำโดยใช้แรงจากข้อมือนั่นเอง ในบางจังหวะของการตีลูกปิงปอง จะต้องใช้ลำตัวช่วยด้วยเหมือนกัน ต้นขาเนื่องจากกีฬาปิงปองเป็นกีฬาที่ต้องใช้ความว่องไว ต้นขาจึงต้องแข็งแรง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเคลื่อนที่ตลอดเวลา หัวเข่าสำหรับอวัยวะเข่านั้น จะใช้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเคลื่อนที่ เท้าเท้าเป็นสิ่งสำคัญต่อการเคลื่อนที่ ในการเคลื่อนที่เข้าหาลูกปิงปองตลอดเวลา เพื่อตามตีลูกปิงปองให้ทัน
จะเห็นได้ว่า กีฬาปิงปองจะใช้ร่างกายแทบทุกส่วน ทำให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวและได้ออกกำลังอย่างเต็มที่ เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพอย่างหนึ่ง ซึ่งนอกจากจะได้ออกกำลังกายแล้ว ยังสร้างความสนุกสนานให้กับทุกคนอีกด้วย